5 อันดับ ตำนานผีญี่ปุ่นที่น่ากลัวที่สุด

Homepage

5 อันดับ ตำนานผีญี่ปุ่นที่น่ากลัวที่สุด


5.โระกุโระคุบิ หรือ ผีสาวคอยาว


โระกุโระคุบิ (ญี่ปุ่นろくろ首 โรมาจิRokurokubi) หรือ สาวคอยาว เป็นเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับ มนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ต้องคำสาปหรืออาถรรพ์ เมื่อตกกลางคืนจะยืดคอออกไปได้ยาวมาก มักจะเป็นเฉพาะในผู้หญิง มีพฤติกรรมที่จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ สาวคอยาวจะดูดพลังของเหยื่อที่เป็นทั้งคนและสัตว์ และจะใช้ลิ้นเลียเพื่อดับไฟตะเกียง ซึ่งสาวคอยาวนั้นมักจะ เป็นผู้หญิงที่ต้องพบกับรักที่ผิดหวัง เพราะว่าเมื่อสามีมาพบว่าภรรยาตนเป็นสาวคอยาว มักจะหนีไปด้วยความหวาดกลัว
ส่วนมากสาวคอยาวมักจะแฝงตัวอยู่กับคนธรรมดาได้ แต่ต้องทุกข์ทรมาณกับการพยายาม ซ่อนร่างจริงของตัวเอง ถึงแม้ว่าสาวคอยาวพยายามปิดบังร่างจริง แต่ความที่เป็นผีทำให้มีความรู้สึกที่จำเป็นจะต้อง แสดงร่างคอยาวออกมาเสมอๆ สาวคอยาวจึงมักจะแสดงร่างจริงออกมาต่อหน้าพวกขี้เมา หรือพวกงี่เง่าเท่านั้น
สาวคอยาวไม่มีนิสัยชอบหลอกคนเหมือนผีร้ายอื่นๆ เพราะยังมีความเป็นมนุษย์อยู่มาก ทั้งยังคิดว่าตัวเองสามารถใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ปกติได้ บางครั้งอาการคอยาวจึงออกมาตอนหลับเท่านั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าตัวเองปวดคอ และฝันเห็นสถานที่ต่างๆ ในมุมมองที่แปลกๆ
บางครั้งก็ว่าเป็นการถอดวิญาณในขณะนอนหลับ แต่ว่าเป็นการถอดวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ จึงถอดออกไปได้แค่ศีรษะเท่านั้น ทำให้กลายเป็นผีสาวคอยาวขึ้นมา นอกจากนี้ยังสามารถเป็นได้กับผู้ชายอีกด้วยเรียกว่า ชายคอยาว(โรกุโระเบ)
4.คุณฮานาโกะประจำห้องน้ำ
ฮานาโกะซัง เด็กหญิงสาววัย ป.1 ที่ได้เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำหญิงของโรงเรียน ซึ่งตำนานนี้ถือเป็นตำนานที่บอกต่อกันมากที่สุด ที่เกิดขึ้นก่อนช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์ ในยุคก่อนปี 1945 หรือช่วงสงครามโลกครั้ง 2 โดยที่มีเรื่อราวเล่ากันว่าเด็กหญิงสาวฮานาโกะ เป็นเด็กชั้นประถามศึกษาปีที่ 1 ที่มักจะโดนกลุ่มเด็กผู้ชายในชั้นเรียนกลั่นแกล้งอย่างบ่อยครั้ง จนกระทั้งถึงวันสุดท้ายของภาคเรียน พวกเด็กเกเรผู้ชายก็ยังได้กลั่นแกล้งฮานาโกะเป็นการทิ้งทาย โดยที่ชวนเธอเล่นซ้อนหา ซึ่งฮานาโกะก็เลือกที่จะไปซ้อนตัวอยู่ที่ห้องน้ำหญิงชั้น 3 ห้องที่ 3 จากนั้นพวกกลุ่มเด็กผู้ชายก็แอบเข้ามาล็อคประตูของเธอ เพื่อจะแกล้งเธอ และทิ้งเธอไว้เพียงลำพังพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ค่อยๆ แผ่วเบาลงเรื่อยๆ  โดยที่กลุ่มเด็กผู้ชายตั้งใจที่จะมาล่อยเธอในช่วงเวลาเลิกเรียน

แต่แล้วเรื่องที่ไม่น่าคิดก็เกิดขึ้น เมื่อสัญญาณเตือนภัยของโรงเรียนดังขึ้นอย่างกึกก้อง ว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดกำลังมุ่งหน้าเข้ามา ทำให้ทุกคนเกิดความตกใจกลัวอย่างมาก ไม่นานเสียงระเบิดก็ดังขึ้นไปไกลจากเขตโรงเรียน ทางคุณครูก็ต่างอพยพพานักเรียนทั้งหมดไปในที่ที่ปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตกใจกลัวและเสียงร้องไห้ของเด็กๆ ไม่มีใครรู้เลยว่ายังมีเด็กหญิงสาวกำลังติดอยู่ที่ห้องน้ำชั้น 3 ห้องที่ 3 แม้กระทั่งเด็กนักเรียนกลุ่มผู้ชายกลุ่มนั้นก็ต่างตกใจอย่างมาก ร้องไห้จนลืมเรื่องของฮานาโกะซังไปในที่สุด

ท่ามกลางความโหดร้ายที่เกิดขึ้น เสียงระเบิดยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ฮานาโกะต้องถูกขังในห้องน้ำเพียงลำพังโดยที่ไม่สามารถหนีออกไปไหนได้ ทางพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต่างวิ่งผ่าควันระเบิดเพื่อมารับลูกหลานของตนเองกลับบ้าน หรือไปอยุ่ในที่ที่ปลอดภัย แต่พ่อแม่ของฮานาโกะ ถึงแม้จะมาแต่ก็ไม่พบฮานาโกะแม้แต่น้อย หลังจากนั้นไม่นาน เสียงระเบิดก็ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว เมื่อระเบิดลงโรงเรียนจนโรงเรียนทั้งหลังพังพินาศไปในพริบตา
หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงไป พ่อแม่และครูก็เริ่มออกตามหาเด็กหญิงฮานาโกะอย่างเต็มที่ จนกระทั่งพบว่าเธอได้กลายเป็นซากศพที่อยู่กับซากห้องน้ำที่ปรักหักพัง โดยที่สภาพศพของเธอเต็มไปด้วยเลือดทั่วร่างกาย และหลังจากนั้นก็เชื่อกันว่าเธอได้กลายมาเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ที่ห้องน้ำหญิงของนักเรียนประถมทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น โดยจะชวนเด็กๆ มาเล่นด้วยหรือเล่นด้วยกับเธอ
ต่อมาก็ได้มีตำนานอีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตำนานฮานาโกะซัง เกี่ยวกับหมึกแดง โดยที่มีเรื่อเล่าว่า มีเด็กนักนักเรียน ป.6 กลุ่มหนึ่ง ได้เข้ามาท้าทายตำนานผีฮานาโกะ ด้วยการชวนกันเข้ามาที่ห้องน้ำหญิงในชั้นที่ 3 ห้องที่ 3 ของโรงเรียน และเด็กคนหนึ่งก็ท้าทายฮานาโกะต่างๆ นาๆ พร้อมทั้งเอาหมึกแดงมาละเลงทั่วเรือนร่างแทนเลือด และเลียนแบบท่าตายของเธอด้วยความสนุก ขบขัน

พอวันต่อมา เธอต้องเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุรถบรรทุกชน เธอต้องตายอย่างอนาถกลางถนนในท่าเดียวกันกับที่เธอทำท่าเลียนแบบการตายของฮานาโกะ แม้กระทั่งเลือดของเธอก็ยังออกมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับที่เธอกับที่เธอได้ท้าทายตำนานฮานาโกะซังอีกด้วย

3.ตำนานโออิวะ แม่นาคฉบับญี่ปุ่น
ถ้าประเทศไทยจะมีตำนานผีของแม่นาคพระโขนงที่ทั้งหลอน ทั้งเศร้า และถูกนำมาทำเป็นละครและภาพยนตร์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ของญี่ปุ่นก็มีเหมือนกันค่ะ เป็นเรื่องจริงที่โด่งดังของผีโออิวะ ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง จนเรื่องเล่าเพี้ยนไปหลายๆ แบบ เป็นผีญี่ปุ่นที่น่าสงสาร จากความรักที่ไม่สมหวัง จนนำมาสู่การแก้แค้นและการหลอกหลอน
 ย้อนกลับไปในสมัยเอโดะ  “โออิวะ” เป็นหญิงสาวสวยนางหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่น โออิวะพบรักและแต่งงานกับ “อิเอม่อน” ซามูไรผู้ยากจน ใครๆ ต่างก็อิจฉาคนคู่นี้ แต่แล้วเวลาแห่งความสุขก็ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่ออิเอม่อนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
ที่จริงแล้ว อิเอม่อนไม่ได้รักโออิวะแม้แต่น้อย เขาแต่งงานก็เพราะหวังทรัพย์สมบัติของเธอเท่านั้น ยิ่งระยะหลัง ความเบื่อหน่ายในตัวภรรยาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนกระทั่งอิเอม่อนได้พบกับสาวสวยคนใหม่ “โออุเมะ” พวกเขาทั้งสองวางแผนจะแต่งงานกัน แต่ติดที่อิเอม่อนมีภรรยาอยู่แล้ว
  เมื่อทำตามปรารถนาไม่ได้ อิเอม่อนจึงคิดวางแผนกำจัดภรรยาที่เป็นตัวขัดขวางความสุขของเขาด้วยการวางยาพิษ โออิวะที่รักและเชื่อใจสามีมาโดยตลอดไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนสามีหักหลัง จึงกินยาพิษเข้าไปทุกวันๆ จนทำให้สุขภาพทรุดโทรม หน้าตาที่สะสวยก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนอัปลักษณ์ แต่จนแล้วจนรอด โออิวะก็ไม่ตายซะที อิเอม่อนอดทนรอต่อไปไม่ไหว จึงตัดสินใจผลักโออิวะตกหน้าผาตาย และเขาก็เป็นอิสระ ได้เข้าพิธีแต่งงานกับโออุเมะในที่สุด
ในคืนแต่งงานที่อิเอม่อนกระหยิ่มยิ้มย่องใจนั้นเอง อยู่ๆ เขาก็มองเห็นโคมไฟเปลี่ยนเป็นหน้าตาอัปลักษณ์ของโออิวะ เขาตกใจมากจึงหยิบดาบมาฟัน แต่แล้วสิ่งที่อิเอม่อนเห็น กลับไม่ใช่หัวของผีภรรยาเก่า แต่เป็นร่างของโออุเมะภรรยาคนใหม่ต่างหาก อิเอม่อนช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นและวิ่งหนีไป แต่ยิ่งหนีเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าหัวของโออิวะก็ยิ่งตามไปหลอกหลอนเขาทุกที่ สุดท้าย อิเอม่อนก็ถูกพบเป็นศพอยู่ที่หน้าผาเดียวกันกับที่โออิวะตาย
 ปริศนาการตายของคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ถูกลือกันไปว่าเป็นแรงพยาบาทและการกลับมาแก้แค้นของโออิวะ ชาวบ้านจึงตัดสินใจสร้างศาลเจ้าขึ้นเพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณของโออิวะมาไว้ ปัจจุบันศาลเจ้าโออิวะตั้งอยู่ในย่าน โยทสึยะ ซันโจเมะ ในชินจุกุ นี่เอง


2.เทเกะ เทเกะ หรือ ผีสาวตัวขาด
ผีญี่ปุ่น เทเค เทเค (Take Take) เป็นตำนานหลอนของประเทศญี่ปุ่น โดยเรื่องเล่ามีอยู่ว่า .. มีนักเรียนสาวคนหนึ่งเกิดประสบอุบัติเหตุหล่นลงไปตรงรางรถไฟ ทำให้ร่างของเธอนั้นถูกบนขยี้ด้วยรถไฟขาดเป็นสองท่อน และทำให้เธอเสียชีวิตทันที ถึงร่างกายจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ แต่ความจริงแล้วกลับทำให้เธอเปนผีที่มีความอาฆาต พยาบาท ในทุกๆ คืนเธอจะถือเคียวหรือเลื่อย เดินทางโดยใช้ข้อศอกคลานไปมา โดยขณะที่เธอคลานตัวนั้นจะมีเสียง เทเค .. เทเค .. ซึ่งเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว แต่ถึงแม้เธอจะคลานด้วยข้อศอก แต่มันก็มีความเร็วมากทีเดียว หากใครพบเห็นเธอเข้าแล้วเกิดหนีเธอไม่พ้น ก็จะถูกเธอใช้เคียวตัดออกเป็นสองท่อนเพื่อให้เป็นเทเคตัวใหม่ต่อไป ..
นอกจากนี้ ตำนาน ผีญี่ปุ่น เทเค เทเค (Take Take) ก็มีหลายเว่อร์ชั่นที่ถูกเล่าขานต่อกันมา แต่ตำนานที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คงจะเป็น หญิงสาวที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการโดดลงรางรถไฟ ให้รถไฟทับจนร่างขาดเป็นสองท่อน แต่เธอก็ยังไม่เสียชีวิตทันที เธอได้แต่คลานไปเรื่อยๆ และร้องโหยหวน “ขาของฉันอยู่ไหน?”

1.สาวปากฉีก
ในชาวญี่ปุ่น มีเรื่องราวน่าสยองขวัญอยู่ตำนานหนึ่ง ซึ่งเป็ฯตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของชาวญี่ปุ่น เรื่องราวของ “สาวปากฉีก” หรือ คุชิซาเกะอันนะ ที่คอย  หลอกหลอนผู้คน ตั้งแต่อดีตตราบจนถึงปัจจุบันนี้ วันนี้เราเลยจะมาฟังตำนานของผีสาวปากฉีก กันครับ
คุชิซาเกะอันนา (Kuchisake-onna) หรือ ตำนานสาวปากฉีก ตำนานเล่นกันว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกสามีผู้หึงหวงทำร้ายจนเสียชีวิต  โดยเธอเป็นอนุภริยาซามูไร ของนายหนึ่ง แต่ไม่ซื่อตรงต่อสามี เมื่อสามีเขารู้จึงโกรธมาก จึงได้เอาดาบสับปากนางจนถึงใบหู แล้วพูดทิ้งท้ายว่า “ดูเถิดคนเขาจะเห็นว่ามึงงดงามอีกหรือไม่” หลังจากนั้นหญิงสาวก็เสียชีวิตลง แต่ด้วยความโกรธแค้นจึงไม่ไปผุดไปเกิด กลับมากลายเป็นผีร้าย มาแก้แค้นสามี และคอยหลอกหลอนผู้คนต่อมา
เเล้วเรื่องน่าขนหัวลุก “สาวปากฉีก” มักเกิดขึ้นในยามวิกาล , , , หากพบหญิงสาวคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นติดโรคของตัวไปด้วยเป็นต้น  ถ้าผู้หญิงผู้นั้นจะหยุดเดิน และถามเด็กว่า “ฉันสวยไหม” ถ้าบอกปัด หญิงนั้นจะล้วงกรรไกรออกมาตัดปากจนตาย เเต่ถ้าตอบรับ หญิงนั้นจะปลดหน้ากากอนามัยออก และยิ้มให้ดู เผยให้เห็นปากที่ถูกตัดจนถึงใบหู มีเลือดไหลท่วม ซึ่งเรียกว่า “รอยยิ้มแบบแกล็สโกว (Glasgow smile)แล้วถามต่ออีกว่า “แล้วตอนนี้ฉันสวยไหม” ถ้าบอกว่าไม่ หญิงผู้นั้นจะล้วงกรรโกรมาตัดกายเด็กเป็นสองท่อน แต่ถ้าตอบว่าใช่ หญิงผู้นั้นจะมอบความสวยงามให้แก่นั้นบ้าง โดยเอากรรไกรตัดปากเด็กจนถึงใบหูเสีย ซึ่งไม่อาจวิ่งหนีหญิงคนนั้นพ้นได้ เพราะหญิงสาวจะปรากฏต่ออีกจนกว่าจะได้ประทุษร้ายนั้นแล้ว
ในตำนานยังบอกอีกว่า ถ้าถูกสาวปากฉีกไล่ตาม และถูกถามว่า “สวยไหม” ก็ให้ตอบว่า “น่ารักสองครั้งติดๆ กัน” หญิงผู้นั้นก็จะเกิดอาการสับสน ก็ให้อาศัยจังหวะหนีไป ปล่อยให้หญิงปากฉีกครุ่นคิดอยู่หาคำตอบมิได้อย่างนั้น บางกระแสก็ว่า ให้ตอบ “ก็พอดูได้” หรือให้ถามกลับไปว่า “แล้วฉันล่ะน่ารักไหม” หญิงผู้นั้นก็จะได้งงงว  ยเช่นกัน หรือที่ให้ตอบว่า “ฉันกำลังหมั้นหมายอยู่” ก็มี การตอบเช่นนั้นแล้วหญิงสาวปากฉีกจะขอให้อภัยต่อการกระทำของนาง และขอตัวจากไป และที่ว่า ในขณะที่ถูกหญิงปากฉีกนั้นไล่ตาม ก็ให้โยนส้ม หรือโปรยลูกอมขนมหวานไป ก็เพราะว่าจะทำให้หญิงปากฉีกหันไปเก็บของเหล่านั้นแทนการตามเรา เปิดโอกาสให้หนีพ้นไปได้ก็มี

บรรณานุกรม 





Homepage


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น